กรูมมิ่งขนกระต่ายให้สวยปังเกินต้าน

กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงอีกชนิดหนึ่งที่คนนิยมเลี้ยงกันมาก นอกจากจุดเด่นที่ดวงตากลมโต ใบหูมีเอกลักษณ์แล้ว ขนอันนุ่มฟูก็เป็นเสน่ห์ฟรุ้งฟริ้งที่ทำให้ใครๆ ต่างตกหลุมรัก เมื่อเอามาเลี้ยงจึงต้องดูแลขนกันอย่างดี โดยเฉพาะสายพันธุ์ขนยาวอย่าง กระต่ายแองโกร่า เท็ดดี้แบร์ หรือวู้ดดี้ทอย เจ้าของหรือคนเลี้ยงควรหมั่นทำความสะอาดและตัดขนบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ขนยาวรุงรังเกินไปและสวยตลอดเวลา

ดังนั้นการตัดขนหรือกรูมมิ่งขนกระต่าย จึงเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการเลี้ยงกระต่าย แม้ว่าโดยปกติตามธรรมชาติ กระต่ายจะทำความสะอาดตัวเองบ่อยๆ อยู่แล้ว ซึ่งสังเกตได้จากพฤติกรรมชอบยกเท้าขึ้นมาเลียหรือลูบหน้า แต่ถึงอย่างนั้น คนเลี้ยงก็ยังต้องกรูมมิ่งขนให้ทุกๆ 2-3 เดือนต่อครั้ง ขนจะได้เนี้ยบนิ้ง สวยปังเกินต้านนั่นเอง

สำหรับการกรูมมิ่งขนกระต่ายนั้น ปัจจุบันมีร้านเพ็ตกรูมมิ่งบริการมากมาย แต่ถ้าอยากจะกรูมมิ่งเองก็สามารถทำได้ ด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. เริ่มจากแปรงขนกระต่ายทุกส่วนให้เรียบร้อยก่อน โดยใช้หวีแปรงสำหรับขนกระต่ายโดยตรง เพื่อจัดการขนไม่ให้พันกันยุ่ง ซึ่งสามารถแปรงไปมาได้ทั้งแปรงไปตามแนวขนและย้อนขึ้นมาก็ได้ หากแปรงแล้วขนตรงไหนติดแน่นเป็นสังกะตัง ไม่ยอมคลายออก ก็ให้ใช้กรรไกรตัดขนตรงปมส่วนนั้นออกไปเลย

2. จากนั้นก่อนลงมือตัดขน ควรลูบหัวลูบตัวน้องเบาๆ เพื่อให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย ไม่ดุ๊กดิ๊กไปมาก่อน เพราะน้องเป็นสัตว์ที่ตกใจง่าย เมื่อน้องไม่ตื่นกลัวแล้ว ก็ให้อุ้มโดยการใช้มือหนึ่งสอดใต้หน้าขาและอีกมือหนึ่งประคองที่ก้น หรือไม่ก็จับโดยใช้ข้างที่ถนัดจับที่ผิวหนังบริเวณท้ายทอยต่อกับหลังให้ตึง และใช้มืออีกข้างประคองที่ก้นเช่นกัน แล้วเอามาวางบนโต๊ะตัดขนหรือบนตักก็ได้ หากวางบนโต๊ะตัดขนมักจะมีสายคล้องช่วยล็อกป้องกันน้องดิ้นได้ แต่ถ้าวางบนตักคนตัดก็แนะนำให้ใช้ขาสองข้างของคนตัดล็อกเอาไว้ หรือแล้วแต่ความถนัด

3. ต่อไปก็เริ่มลงมือตัดขนได้เลย ซึ่งสิ่งที่ต้องมีก็คือ กรรไกรสำหรับตัดขนสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ โดยวิธีการตัดที่ถูกต้อง จะต้องวางกรรไกรนอนแนบไปกับลำตัวกระต่าย แล้วค่อยๆ ตัดอย่างใจเย็น ไม่ยกหรือดึงขนขึ้นมาเป็นก้อนแล้วตัด เพราะผิวหนังน้องมีความยืดหยุ่นสูงมาก อาจทำให้ตัดไปโดนเนื้อได้ ทั้งนี้กรณีตัดเอง เวลาตัดขนส่วนไหนก็ให้ขยับพลิกขนส่วนนั้นขึ้นมาตัดอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะขนใต้ท้อง ขนใต้ฝ่าเท้า แล้วก็ขนตามใบหู ส่วนความสั้นยาวของการตัดขน คงขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของกระต่าย แต่ว่าขนใต้เท้าไม่แนะนำให้ตัดสั้นมาก เนื่องจากเป็นขนที่ถูกออกแบบมาตามธรรมชาติให้เป็นเหมือนรองเท้านุ่มๆ รองรับฝ่าเท้ากระต่าย ไม่ให้เกิดแผลหรือฝ่าเท้าอักเสบง่ายๆ เวลาต้องเดินอยู่บนพื้นกรงนานๆ

4. หลังจากตัดขนเสร็จแล้ว ก็ควรทำความสะอาดขนกระต่ายด้วยการใช้ทิชชูเปียกหรือผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดไปตามตัวอย่างเบามือ รวมทั้งเช็ดหูด้วยสำลีกับน้ำยาเช็ดหู แล้วก็เช็ดรอบดวงตาให้สะอาดด้วยสำลีชุบน้ำอุ่น เพียงเท่านี้ การกรูมมิ่งขนกระต่ายก็ออกมาสวยปังเกินต้านอย่างแน่นอน